กลุ่มโตเกียวมารีนแต่งตั้ง 2 ผู้บริหารระดับสูง

มุ่งเสริมความแข็งแกร่งประเทศไทย

กลุ่มโตเกียวมารีนประกาศแต่งตั้งMr. Shinichi Hirose(คุณชินอิจิฮิโรเสะ)ดำรงตำแหน่งExecutive Director ดูแลธุรกิจประกันชีวิตในภูมิภาคเอเชียและMr. Shin Tanimoto (คุณชินทานิโมโตะ) กรรมการผู้จัดการ บมจ.โตเกียวมารีนประกันชีวิต (ประเทศไทย) เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2561

Mr.Shinichi Hirose ได้รับมอบหมายให้ดำรงตำแหน่ง Executive Director โดยมีหน้าที่ความรับผิดชอบดูแลธุรกิจในประเทศจีนและเอเชียตะวันออกและท่านยังดำรงตำแหน่งSenior Managing Executive Officer, Tokio Marine Holdings ประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย

Mr. Shinichi Hirose เข้าร่วมงานกับโตเกียวมารีนตั้งแต่ปี 2525 ผ่านประสบการณ์ทำงานในหลายด้านไม่ว่าจะเป็นฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ฝ่ายการตลาดฝ่ายวางแผนและจัดการเชิงกลยุทธ์ชั้นสูงที่สำนักงานใหญ่โตเกียวมารีนนิจิโดไฟร์ล่าสุดท่านดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารโตเกียวมารีนนิจิโดไลฟ์ (ประเทศญี่ปุ่น) จนถึงปี 2560 ท่านเป็นบุคคลสำคัญที่ทำให้โตเกียวมารีนนิจิโดไลฟ์เป็นบริษัทประกันชีวิตที่เติบโตเร็วที่สุดในอุตสาหกรรมนอกจากนี้ในช่วงระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงธันวาคม2560ท่านยังได้เป็นหนึ่งในสมาชิกของCenter of Japanese Economy and Business ที่Columbia Business School ในมลรัฐนิวยอร์กได้เข้าร่วมงานกับFirst Insurance Company of Hawaii (FICOH) ที่ฮาวายและTokio Marine Seguradoraที่บราซิลทำให้ท่านมีความเข้าใจในธุรกิจอย่างลึกซึ้ง

“จากนี้ไปผมตั้งปณิธานไว้ว่าจะทุ่มเทความรู้ความสามารถที่มีในการพัฒนาธุรกิจของTMAsiaโดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจประกันชีวิตเพื่อขยายธุรกิจให้เติบโตไปอย่างรวดเร็วควบคู่ไปกับการสร้างหลักประกันความคุ้มครองในชีวิตและทรัพย์สินที่มั่นคงให้กับลูกค้าของเราธุรกิจประกันชีวิตกำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายอย่างสูงจากหลายด้านไม่ว่าจะเป็นผลกระทบของอัตราดอกเบี้ยในตลาดโลกการสร้างพื้นฐานของช่องทางการจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่งการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่น่าสนใจการสร้างความพึงพอใจและความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าในระดับที่สูงขึ้นรวมไปถึงการพัฒนาในด้านIT แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องง่ายในการเผชิญกับความท้าทายเหล่านั้นดั้งนั้นเราจำเป็นต้องมีแรงปรารถนาอย่างแรงกล้าและการทำงานร่วมกันเป็นทีมเพื่อเอาชนะทุกความท้าทายผมมีความมุ่งมั่นอย่างสูงที่จะทำให้พนักงานทุกคนรู้สึกได้ว่าเขากำลังทำงานเพื่อสร้างบริษัทแห่งนี้ให้เป็น Good Company” Mr. Shin Tanimotoเข้ารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการบมจ.โตเกียวมารีนประกันชีวิต (ประเทศไทย) เมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมาต่อจากMr. Ryusuke Futamura ที่ได้ย้ายไปรับผิดชอบบริหารงานดูแลกลุ่มบริษัทประกันชีวิตในภูมิภาคเอเชียโดยไปประจำอยู่ที่Tokio Marine Asia ประเทศสิงคโปร์

Mr. Shin Tanimotoเข้ามาร่วมงานกับโตเกียวมารีนนิจิโดไฟร์ตั้งแต่ปี 2527 และได้รับมอบหมายให้ไปปฏิบัติหน้าที่ในหลายประเทศเช่นการพัฒนาธุรกิจที่ประเทศฝรั่งเศสและบริหารธุรกิจของชิโนไลฟ์ประกันชีวิตในประเทศจีนครอบคลุมรวมทั้งจีนฮ่องกงไต้หวันและเกาหลีใต้ตลอดจนปฏิบัติหน้าที่ในหลายหน่วยงานในโตเกียวมารีนนิจิโดไฟร์อาทิเช่นฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ฝ่ายพัฒนาธุรกิจต่างประเทศเป็นต้น

“ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในการเข้าดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการของบมจ.โตเกียวมารีนประกันชีวิต (ประเทศไทย) โดยจะนำเอาประสบการณ์ที่แตกต่างในหลายประเทศที่ผมได้เข้าร่วมงานมาประยุกต์ใช้ขับเคลื่อนให้โตเกียวมารีนประเทศไทยเติบโตมากยิ่งขึ้นภารกิจของผมคือการมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงและบริการที่ยอดเยี่ยมให้แก่ลูกค้าเรียบง่ายแค่นี้ซึ่งจะเชื่อมโยงสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนของบริษัทเราต่อไปในอนาคตก่อนหน้าที่ผมจะได้รับมอบหมายมาปฏิบัติหน้าที่ในประเทศไทยMr. Tsuyoshi Nagano President and Group CEO, Tokio Marine Holdings ได้เข้ามาคุยกับผมว่าตัวแทนของโตเกียวมารีนประกันชีวิตประเทศไทยเป็นตัวแทนฝีมือดีและเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านประกันชีวิตที่ได้รับการยอมรับจากลูกค้าโดยจะทำหน้าที่เสนอสินค้าและมอบบริการที่ดีให้แก่ลูกค้าซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยสนับสนุนการเติบโตของบริษัทภายใต้การดูแลของคุณสมโพชน์ที่เป็นแม่ทัพมากประสบการณ์และมีผลงานอันยอดเยี่ยมการเติบโตอย่างต่อเนื่องของช่องทางตัวแทนของโตเกียวมารีนประกันชีวิตเกิดขึ้นจากศักยภาพความเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งของคุณสมโพชน์พลังตัวแทนและพนักงานทุกคนผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่วันนี้ผมมีโอกาสได้มาพบทุกท่านในวันนี้”

นายสมโพชน์เกียรติไกรวัลรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารบมจ.โตเกียวมารีนประกันชีวิต (ประเทศไทย) เผยผลประกอบการบริษัทประจำปี 2560 มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 6,157 ล้านบาทแบ่งเป็นเบี้ยประกันภัยรับปีแรก 1,465 ล้านบาทและเบี้ยประกันภัยรับปีต่ออายุ 4,692 ล้านบาทบรรลุเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้โดยมีอัตราการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับรวม 13% เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับผลประกอบการปีที่แล้วโดยมีสัดส่วนการขายหลักมาจากช่องทางการขายผ่านตัวแทนประกันชีวิตประกันกลุ่มและช่องทางอื่นๆตามลำดับสำหรับในปี2561 บริษัทตั้งเป้าหมายอัตราการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับรวม 12% โดยเป็นเบี้ยประกันภัยรับรวม 6,924 ล้านบาทเบี้ยประกันภัยรับปีแรก 1,816ล้านบาทสำหรับไตรมาสหนึ่งประจำปี 2561 บริษัทมีผลผลิตเบี้ยประกันภัยรับรวม 1,275 ล้านบาท

สำหรับผลประกอบการในช่องทางตัวแทนปีที่ผ่านมามีเบี้ยประกันภัยรับรวม 4,391 ล้านบาทแบ่งเป็นเบี้ยประกันภัยรับปีแรกสำหรับช่องทางตัวแทน 1,013 ล้านบาทและเบี้ยประกันภัยรับปีต่อ 3,378 ล้านบาทมีอัตราการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับรวม 14% เปอร์เซ็นต์โดยในปี 2561 ตั้งเป้าหมายเบี้ยประกันภัยรับรวม 15% โดยเป็นเบี้ยประกันภัยรับรวม 5,064 ล้านบาท เป็นประกันภัยรับปีแรก 1,280 ล้านบาทพร้อมเพิ่มจำนวนตัวแทนให้ได้ 4,500 คนเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของช่องทางตัวแทนต่อไปในอนาคตสำหรับในระยะเวลา 4 เดือนที่ผ่านมาในช่องทางมีเบี้ยประกันภัยรับรวม 1,082 ล้านบาท

สำหรับทิศทางการขับเคลื่อนธุรกิจในปีนี้บริษัทได้มุ่งเน้นที่จะพัฒนาใน 3 เสาหลัก

1.การพัฒนาบุคคลากรทั้งสายงานฝ่ายขายและพนักงานให้มีความรู้ความสามารถเพื่อรองรับกับการเติบโตและการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจในปัจจุบันโดยเฉพาะในยุค 4.0 ซึ่งบริษัทฯกำลังพัฒนาMobile Application เพื่อเป็นเครื่องมือให้ฝ่ายขายในการนำเสนอแบบผลิตภัณฑ์รวมถึงการส่งใบคำขอเอาประกันภัยแบบออนไลน์ซึ่งลูกค้าจะได้รับทราบผลการพิจารณาแบบเรียลไทม์

2.การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลายและครอบคลุมความต้องการของทุกกลุ่มเป้าหมายบริษัทฯยังคงมุ่งเน้นให้ประชาชนชาวไทยได้ตระหนักถึงการเตรียมความพร้อมทางการเงินเพื่อรับมือกับชีวิตหลังเกษียณรวมถึงการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับค่ารักษาพยาบาลที่สูงขึ้น
3.การพัฒนากระบวนการทำงานเพื่อเป็นการตอบสนองต่อนโยบายการยกระดับคุณภาพการบริการและมุ่งเน้นการบริการที่มีลูกค้าเป็นศูนย์กลางผ่านเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อบริการที่รวดเร็วคล่องตัวบริษัทฯมีโครงการที่จะเพิ่มบริการต่อไปนี้
- ขยายเวลาการให้บริการของCall Center เป็น 24 ชั่วโมงทุกวันโดยในระยะแรกจะให้บริการ 24 ชั่วโมงสำหรับลูกค้าประกันกลุ่มส่วนบริการลูกค้ารายบุคคลในระยะแรกจะเริ่มจากการให้บริการ 08.30 – 20.00 ทุกวันในอนาคตจะขยายเวลาการให้บริการ 24 ชั่วโมงเช่นกัน
- ระบบการนำเสนอแบบประกันการสมัครและพิจารณารับประกันภัยผ่านMobile Application โดยระบบงานนี้ทำให้ตัวแทนสามารถนำเสนอแบบประกันพร้อมทั้งอำนวยความสะดวกในการสมัครทำประกันภัยการชำระเงินรวมถึงรับทราบผลการพิจารณารับประกันภัยทันทีต่อหน้าลูกค้าซึ่งจะล่นระยะเวลาจากเดิมต้องใช้เวลาขั้นต่ำ 3 วันเหลือเพียงไม่กี่นาทีและในอนาคตอันใกล้จะพัฒนาระบบการส่งมอบกรมธรรม์ในรูปของดิจิทัลหรือE-Policy

“สำหรับแนวโน้มของธุรกิจประกันชีวิตในปีนี้มีโอกาสที่จะเติบโตสืบเนื่องจากประชาชนให้ความสำคัญเกี่ยวกับการเก็บออมเพื่อรับมือกับชีวิตภายหลังเกษียณมากขึ้นรวมทั้งการตระหนักถึงค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นจากการเข้ารับการรักษาพยาบาลในกรณีเจ็บป่วยในส่วนของโตเกียวมารีนประกันชีวิตเราได้ตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องการเตรียมความพร้อมทางด้านการเงินให้กับลูกค้ามาตั้งแต่เริ่มต้นไม่เพียงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สอดรับความต้องการด้านการเกษียณและด้านค่ารักษาพยาบาลเท่านั้นหากแต่บริษัทยังได้เสริมสร้างความรู้ให้กับฝ่ายขายอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ฝ่ายขายของเรามีความรู้ที่ถูกต้องในการให้คำแนะนำลูกค้าดังจะเห็นได้จากการร่วมมือกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเพื่อพัฒนาหลักสูตรCRP“Certified Retirement Planner” ที่ได้มีการอบรมอย่างต่อเนื่องให้กับตัวแทนเป็นปีที่ 4 ซึ่งผลจากการพัฒนาโครงการนี้ทำให้บริษัทได้เข้ารับรางวัลGood Company Global Awards จากMr. Tsuyoshi Nagano President and Group CEO, Tokio Marine Holdings ณสำนักงานใหญ่อาคารโตเกียวมารีนนิชิโดะฮอนกันกรุงโตเกียวประเทศญี่ปุ่นโดยรางวัลนี้เป็นหนึ่งในผลการทำงานที่สะท้อนให้เห็นถึงการสอดรับนโยบายของการสร้างบริษัทให้เป็นGood Company ด้วยการสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าได้ว่ากลุ่มโตเกียวมารีนมุ่งมั่นและจริงจังในการเสริมสร้างและพัฒนาสังคมไทยให้มั่นคงและเราจะรักษาพันธสัญญาที่ได้ให้ไว้กับลูกค้าด้วยการส่งมอบบริการที่มีคุณภาพสูงนั่นคือหลักประกันความมั่นคงอุ่นใจในชีวิตสืบต่อไปในอนาคตอย่างยั่งยืน”

Visitors: 1,263,549