เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต เติบโตต่อเนื่อง

โชว์มูลค่าสินทรัพย์ลงทุน 102,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17%

บริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด(มหาชน) แถลงผลการดำเนินงานของปี 2560 โดยมีผลงานที่โดดเด่น ดังนี้

1. มูลค่าสินทรัพย์การลงทุนเติบโตอย่างรวดเร็ว ภายใน 5 ปี โดยมีมูลค่าสินทรัพย์ลงทุน 102,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตที่รวดเร็วมาก
2. เบี้ยประกันภัยรายใหม่ (FYP+SP) 7,800 กว่าล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% และมีเบี้ยประกันภัยรับรวม 23,000 ล้านบาท
3. สัดส่วนเบี้ยประกันภัยรายใหม่ของแต่ละช่องทางขาย: ช่องทางการขายผ่านตัวแทน 15% ช่องทางการขายผ่านธนาคาร 59% และช่องทางการขายทางเลือกอื่น 26%
4. แบบประกันยูนิตลิ้งค์ ยังเป็นแบบประกันที่ขายดีทั้งในช่องทางการขายผ่านธนาคารและช่องทางขายผ่านตัวแทน โดยมีเบี้ยประกันภัยรับรวมปีแรก 1,071 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 129%

นางสาวปรมาศิริ มโนลม้าย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมา บริษัทฯมีผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจโดยช่องทางการขายผ่านตัวแทน บริษัทมุ่งเน้นในการสร้างตัวแทนคุณภาพ โดยบริษัทฯสามารถผลิตตัวแทนสำหรับขายแบบประกันยูนิตลิ้งค์ในช่องทางการขายผ่านตัวแทนได้ 230 คนภายใน 1 ปี ด้านช่องทางการขายผ่านธนาคาร ในปีทีผ่านมา บริษัทได้มีการต่อสัญญาการเสนอขายกรมธรรม์ประกันชีวิตผ่านธนาคารทีเอ็มบี เป็นเวลา 15 ปี และร่วมพัฒนาแบบประกันให้เหมาะสมกับลูกค้าของทีเอ็มบี สำหรับช่องทางการขายทางเลือกอื่นๆ มีการเติบโตสูงถึง 101%

ด้านกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจภายใน 3 ปี ตั้งแต่ปี 2561 - 2563 บริษัทยังคงมุ่งเน้นไปที่ลูกค้าเป็นหลักเช่นเดิม ด้วยกลยุทธ์หลัก ได้แก่
1. การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ทั้งในด้านการบริการ การให้คำแนะนำ และการติดต่อบริษัทโดยนำดิจิตอลแพลตฟอร์มเข้ามาใช้ ในการพิจารณาความสนใจส่วนบุคคลของลูกค้า และช่องทางการสื่อสาร เพื่อสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ตรงใจลูกค้ามากที่สุด
2. มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์แบบบูรณาการ ที่ผสมผสานนวัตกรรมใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า
3. พัฒนาฝ่ายขายและช่องทางจัดจำหน่ายให้มีคุณภาพสูงสุด ทั้งในด้านการติดต่อกับลูกค้า และการสร้างทีมงานฝ่ายขายให้เป็นระดับมืออาชีพ รวมทั้งมีโปรแกรมฝึกอบรมที่ได้มาตรฐาน
4. การสร้างบุคลากรให้มีคุณค่า ด้วยโครงสร้างทางวัฒนธรรมองค์กรในแบบเอฟดับบลิวดี ประกันชีวิตที่สอดคล้องกับคุณค่าของแบรนด์

นางสาวปรมาศิริ กล่าวเพิ่มเติม ว่า จากกลยุทธ์หลักนี้ บริษัทฯคาดการณ์ว่าจะมีลูกค้าเพิ่มเป็น 1.6 ล้านคน จากปัจจุบันมีอยู่ 800,000 ราย และคาดว่าเบี้ยประกันรับปีแรกจะมีการเติบโตตามแผนงานที่วางเป้าหมายไว้

“ทุกสิ่งที่เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิตดำเนินการ เพราะเราต้องการเปลี่ยนมุมมองของคนที่มีต่อการประกันชีวิต ซึ่งหมายความว่า ถ้าประชาชนเห็นความสำคัญของการประกันชีวิต เขาก็จะมีหลักประกันในชีวิตที่มั่นคง เศรษฐกิจก็จะดีขึ้น และส่งผลให้สังคมไทยมีความแข็งแรง” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าวในตอนท้าย

นายบ๊อบ เวาเทอร์ส ประธานเจ้าหน้าที่สายงานช่องทางจัดจำหน่าย เปิดเผยว่า ในปี 2560 บริษัทฯได้มีการนำสินทรัพย์การลงทุนทั้งหมดกลับมาบริหารงานเอง จากเดิมที่บริษัทฯว่าจ้างผู้จัดการกองทุนเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งทีมงานฝ่ายการลงทุนของบริษัทฯสามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างดี โดยเลือกลงทุนในประเทศไทยเป็นหลักและเน้นผลตอบแทนที่เหมาะสมกับระดับความเสี่ยง เพื่อให้บริษัทฯและลูกค้าได้รับผลตอบแทนที่ดี

นายอภิรักษ์ จิตรานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานเทคโนโลยีและปฏิบัติการ กล่าวว่า ในปี 2560 บริษัทฯได้มีการเปลี่ยนระบบคอมพิวเตอร์หลักที่ใช้ในการดำเนินการ ซึ่งช่วยให้บริษัทฯสามารถพิจารณาสินไหมได้รวดเร็วยิ่งขึ้นรวมทั้งมีการพัฒนาการให้บริการต่างๆ แก่ลูกค้า ส่งผลให้บริษัทฯได้รับรางวัลศูนย์รับเรื่องร้องเรียนและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภค (Call Center) ประเภทดีเด่น

Visitors: 1,263,502